สิ่งที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกจับตามองมากที่สุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นก็คือการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษประจำฤดูกาล 2021- 2022 ซึ่งเป็นเกมหยุดโลกของ 2 สโมสรคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรัง โอลแทรฟอร์ด พบกับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าศึกแดงเดือดนั่นเอง ซึ่งมันได้สร้างความจดจำให้กับเจ้าบ้าน ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปตลอดกาลและกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของทีมที่ค่อนข้างจะไม่น่าจดจำเอาซะเลย นั่นก็คือ ความพ่ายแพ้ แพ้ต่อ หงส์แดงลิเวอร์พูล ไปแบบเละเทะถึง 0 ประตูต่อ 5 เป็นการแพ้ที่เละย่อยยับมากที่สุดนับตั้งแต่ 126 ปี ก่อน ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องราวต่างๆของค่ำคืนวันที่ 24 ตุลาคม 2021 จะจดจำเอาไว้ของสาวกผีแดงไปตลอดกาล
เหตุการณ์ที่น่าสนใจ ความพ่ายแพ้ จากศึกแดงเดือด
เหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและไม่น่าจดจำเอาซะเลยในเกมแดงเดือดระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล นอกจากการแพ้ยับไปถึง 0-5 แล้วเหตุการณ์ที่เหล่าสาวกปีศาจแดงนั้นเดินออกจากสนามตั้งแต่ช่วงต้นเกมในครึ่งหลังนาทีที่ 65 มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และ ถือเป็นความเลวร้ายที่มันเจ็บปวดจนทนไม่ไหว และแฟนบอลรับไม่ได้กับผลของสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้า กับการที่ต้องโดนคู่แข่งตลอดการบุกมายิงได้มากขนาดนี้
โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ทำแฮตทริกได้ในเกม ณ เวลานี้คงไม่มีนักฟุตบอลกองหน้าคนไหนในพรีเมียร์ลีกที่โด่งดังเท่าเขาอีกแล้ว และเกมนัดสำคัญอย่างศึกแดงเดือดนี้ก็ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะสามารถทำแฮททริกใส่ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ถือเป็นการตอกย้ำถึงความล้มเหลวอย่างที่สุดของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเรื่องของเกมรับที่ไม่สามารถป้องกันการบุกของคู่แข่งได้เลย
ปอล ป๊อกบาโดนใบแดง ป๊อกบา ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังเขาอยู่ในสนามได้เพียงแค่ 15 นาที ก็ต้องกลับไปอยู่ที่นอกสนาม หลังจากที่ไปกระโดดสองเท้าเข้าใส่ นาบี้ เกอิต้า ซึ่งทำให้ กองกลาง ของหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่กำลังฟอร์มดีบาดเจ็บหนัก จนต้องถูกถามขึ้นเปลออกจากสนามไป ส่งผลให้ ป๊อกบา โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม หลังจากผู้ตัดสินให้เป็นใบเหลืองในตอนแรก ก่อนที่จะไปเช็ค var และเปลี่ยนคำตัดสินเป็นการให้ใบแดงในที่สุด
และเหตุการณ์ศึกแดงเดือดครั้งนี้มันอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของการปลดผู้จัดการทีมในปัจจุบันอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็เป็นได้
อัพเดทข่าววงการฟุตบอลทุกวันต่อได้ที่ Sport2KicK
#ความพ่ายแพ้ #แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด #ลิเวอร์พูล